นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกรรมการและผู้บริหาร

 

 

นโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกรรมการและผู้บริหาร

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฉบับปรับปรุงวันที่ [ ]

1. บททั่วไป

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด (“บริษัท”) จึงจัดทำนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกรรมการและผู้บริหาร (“นโยบายฯ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ท่านที่เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท (“ท่าน”) ทราบถึงวิธีการ ความจำเป็นและเงื่อนไขที่บริษัทจะปฏิบัติต่อข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตลอดจนแจ้งสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัท ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้นโยบายฯ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

2. กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัท ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้นโยบายฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัท ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วยกรรมการ ผู้บริหารที่อยู่ภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน หรือสัญญาการว่าจ้างบริหาร หรือสัญญาประเภทอื่น ที่มีตำแหน่งเป็นผู้บริหารของบริษัท

3. วิธีที่บริษัท เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทอาจเก็บรวบรวม และรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางโดยตรงจากการที่ท่านแจ้งข้อมูลให้แก่บริษัทใบแบบฟอร์มการตรวจสอบคุณสมบัติหรือทะเบียนกรรมการและผู้บริหารเข้าใหม่ หรือจากการที่บริษัทอาจตรวจสอบข้อมูลของท่านจากฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการ หรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการและผู้บริหาร

4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความจำเป็นต้องประมวลผล

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้นโยบายฯ ฉบับนี้ ได้แก่

4.1    ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกรรมการหรือผู้บริหาร ได้แก่ ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด สัญชาติ อาชีพ ที่อยู่ปัจจุบัน ข้อมูลบัญชีธนาคาร จำนวนหุ้น เลขประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง และข้อมูลการติดต่อ (เช่น เบอร์โทรศัพท์ และ/หรืออีเมล)

4.2    ข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมของกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่บริษัทอาจจำเป็นต้องจัดทำตามแบบฟอร์มที่หน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กระทรวงพาณิชย์ หรือหน่วยงานอื่น ๆ อาจประกาศกำหนด ซึ่งได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ประวัติย่อของกรรมการและผู้บริหารแต่ละท่านและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน (ได้แก่ ประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน การเป็นกรรมการหรือมีตำแหน่งในบริษัทหรือกิจการอื่น ๆ การอบรม สถานภาพการสมรส คู่สมรส บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เป็นต้น) และรูปถ่ายของกรรมการและผู้บริหาร รวมถึงผลการตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามของกรรมการและ/หรือผู้บริหารซึ่งอาจเป็นไปตามแบบฟอร์มที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอาจกำหนด

4.3    ข้อมูลการเข้าร่วมประชุมที่กรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวเข้าร่วม ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งการบันทึกภาพและเสียงระหว่างการเข้าร่วมประชุมทั้งในรูปแบบการประชุมแบบออนไลน์และออฟไลน์

4.4    ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกรรมการหรือผู้บริหารที่ท่านอาจให้แก่บริษัทระหว่างการปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่กรรมการหรือผู้บริหารแต่ละท่านอาจยินยอมและนำส่งให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลลายมือชื่อและสำเนาเอกสารแสดงตน ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง ซึ่งบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องแนบท้ายไปพร้อมกับเอกสารธุรกรรมต่าง ๆ ที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารดังกล่าวอาจดำเนินการในนามและแทนบริษัท เป็นต้น

4.5    ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ท่านอาจยินยอมและนำส่งให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะอื่น ๆ

5. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทตกลงประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้

5.1    ในการดำเนินกระบวนการสรรหากรรมการหรือผู้บริหาร บริษัทย่อมมีความจำเป็นในการตรวจสอบยืนยันข้อมูลคุณสมบัติของกรรมการหรือผู้บริหาร โดยการตรวจสอบและสอบทานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง

5.2    เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท เช่น การบริหารจัดการบริษัท (เช่น การปรับโครงสร้างกิจการ การเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน) การส่งหนังสือเชิญประชุมหรือหนังสือบอกกล่าวอื่น ๆ ภายใต้กฎหมายให้กรรมการรับทราบ การจัดทำบัญชีและรายงาน และการดำเนินการหน้าที่อื่นของบริษัทในฐานะบริษัทมหาชนจำกัด และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

5.3    เพื่อการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ของบริษัทต่อกรรมการหรือผู้บริหารภายใต้สัญญาที่อาจมีระหว่างกัน ในการควบคุมดูแล บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างกรรมการหรือผู้บริหารกับบริษัท ตลอดระยะเวลาการเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการติดต่อสื่อสารประสานงาน การใช้ข้อมูลใด ๆ ของกรรมการหรือผู้บริหาร เพื่อการดำเนินงานซึ่งกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวอาจต้องดำเนินการในฐานะตัวแทนของบริษัท (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการหรือผู้บริหารเพื่อเป็นเอกสารและข้อมูลที่ต้องใช้ในการติดต่อสื่อสาร และทำธุรกรรมทั้งหมดที่ดำเนินการในนามและแทนบริษัทกับคู่ค้า หรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด) รวมถึงเพื่อการคิดคำนวณและการจ่ายค่าตอบแทน เช่น ค่าเบี้ยประชุมให้แก่กรรมการตามข้อตกลงและกฎระเบียบ เป็นต้น

5.4    เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของกรรมการและผู้บริหาร โดยเป็นการดำเนินการเพื่อรับประกันความโปร่งใสและธรรมาภิบาลของบริษัท โดยเฉพาะเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทในฐานะบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งต้องรักษาธรรมาภิบาลของบริษัท รวมถึงดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อแนะนำหรือแนวปฏิบัติที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอาจประกาศกำหนด บริษัทย่อมมีหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารเพิ่มเติม โดยเฉพาะ ในการจัดทำรายงานประจำปีของบริษัท หรือการจัดทำเอกสารเผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัท โดยเฉพาะผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ และเว็บไซต์ของบริษัท หรือการดำเนินการประมวลผลข้อมูลเพื่อประโยชน์ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การดำเนินกิจกรรมและอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้แก่กรรมการและผู้บริหารในการใช้สิทธิหรือการปฏิบัติหน้าที่ การบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุมภายในองค์กร การกำกับการตรวจสอบ ตลอดจนการตรวจสอบภายในรวมถึงการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และการใช้สิทธิในการปกป้องต่อสู้ข้อต่อสู้ใดที่อาจมีระหว่างบริษัท และกรรมการหรือผู้บริหารที่เกี่ยวข้องดังกล่าว

เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนด ตามข้อ 5 ทั้งหมดนี้มีความเกี่ยวเนื่องและจำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์การปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัท ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ที่บริษัทอาจมีต่อท่านในฐานะกรรมการหรือผู้บริหาร

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.1    กลุ่มบุคคลที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงาน ดังต่อไปนี้

(1)   การเปิดเผยข้อมูลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารผ่านช่องทางเว็บไซต์หรือสื่อสาธารณะอื่นของบริษัท ซึ่งจะเปิดให้บุคคลใด ที่สนใจอาจเข้าถึงได้ ตามหน้าที่การเปิดเผยที่บริษัทต้องดำเนินการในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามจะเป็นการเปิดเผยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

(2)  คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ บริการจัดพิมพ์ บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการวิจัย บริการทำการตลาด หรือบริการอื่น ใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท รวมถึงที่ปรึกษาของบริษัท อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการนายทะเบียนหลักทรัพย์ของบริษัท

(3)   หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และศาล เป็นต้น

(4)   บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคล หรือหน่วยงานนั้น ๆ อาทิ การเปิดเผยการประมวลภาพกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่าง ๆ ของบริษัท ให้แก่ประชาชนทั่วไป

6.2    กรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อน

6.3    การรักษาความมั่นคงปลอดภัย ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสม  เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐาน และหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ  เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัท อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว

7. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

7.1    กรอบระยะเวลาการเก็บรักษา บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็น  เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ กล่าวคือ (i) ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่ท่านยังมีฐานะเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท และ (ii) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีหน้าที่ภายใต้กฎหมายใดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ระยะเวลาการจัดทำเอกสารบัญชี นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบสิทธิและการปกป้องสิทธิของบริษัทและท่านภายใต้สถานะบริษัทและกรรมการหรือผู้บริหาร บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมเพิ่มเติมตามกรอบอายุความที่เหมาะสมหลังจากที่กรรมการหรือผู้บริหารสิ้นสุดสภาพการเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้ ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) 

7.2    การดำเนินการภายหลังครบกำหนดระยะเวลา หลังจากครบกำหนดระยะเวลาที่จำเป็น บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้

8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น บริษัท จะตรวจสอบ และใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งทางกายภาพ และทางเทคนิคที่ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทําลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกนําไปใช้ในทางที่ผิด ถูกเปิดเผย และเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

9. สิทธิต่าง ๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

9.1    สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัท ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ และ (8) สิทธิในการร้องเรียน

9.2    การติดต่อ หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัท เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัท โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 10 ของนโยบายฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัท ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

10. วิธีการติดต่อบริษัท

บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัท ผ่านช่องทาง ดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลของบริษัท หรือ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด

สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 223/53 อาคารคันทรี่คอมเพล็กซ์ เอ ชั้น 13 ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนาใต้  เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260

อีเมล : dpo@a2-tech.com

เบอร์โทรศัพท์ 02-361-5494-5

11. การเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ฉบับนี้

บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด  โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับนโยบายฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัท ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ฉบับนี้เป็นระยะ